รัสเซีย ยูเครน : สองนักข่าวอาวุโสร่วมวิเคราะห์ สงครามยูเครนในปี 2023 จะเป็นอย่างไร
ปี 2023 จะเป็นปีที่สงครามในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้น หรือจะคลี่คลายจนจบสิ้นลงในที่สุด หรือจะสู้กันไปเรื่อย ๆ แบบนี้โดยไร้ทางออก บรรณาธิการข่าวในรัสเซียของบีบีซี สตีฟ โรเซนเบิร์ก และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศของบีบีซี เจเรมี โบเวน มาร่วมวิเคราะห์กันเรื่องนี้ในรายการวิทยุ Today ของบีบีซี
มีท่าทีว่า ปธน. ปูติน จะเหนื่อยล้าบ้างไหม
สตีฟ โรเซนเบิร์ก : “ไม่เหนื่อย ไม่มีสัญญาณเลย เราพอจะเห็นภาพจากการปราศรัยเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ว่าวลาดิเมียร์ ปูติน กำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้ และอยากจะพารัสเซียไปอยู่ในจุดไหนในปี 2023
หากไม่นับถึงสิ่งที่เขาพูด แค่ภาพที่เราเห็นก็บอกเล่าทุกอย่างได้หมดแล้ว เพราะขณะที่เขากำลังพูด มีชายและหญิงที่สีหน้าค่อนข้างเคร่งขรึมยืนใส่ชุดทหารอยู่ด้านหลังเขา มันเป็นภาพที่ค่อนข้างจะสะดุดตาที่กำลังสื่อสารกับคนในชาติว่า ‘นี่คือประเทศของเราในตอนนี้ นี่คือรัสเซียในปี 2023 ประเทศที่กำลังเผชิญสงครามอยู่’…
แม้ว่าเขาจะยังไม่เรียกมันว่าสงคราม แต่นี่เป็นประเทศที่ผลักดันทุกอย่างเพื่อที่จะได้รับชัยชนะทางทหารเหนือยูเครน เหนือนาโต เหนือชาติตะวันตก และเป็นที่ที่ทุกคนถูกคาดหวังให้สนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ และต้องพร้อมที่จะยอมเสียสละ ห้ามไม่ให้มีการถกเถียงกัน ห้ามไม่ให้พูดคุยกัน ผนึกกำลังกันภายใต้ธงชาติของคุณ ผนึกกำลังรอบตัวผมซึ่งเป็นผู้นำของคุณ
นั่นคือแค่สิ่งที่ภาพที่เห็นสื่อออกมา และเมื่อคุณฟังในสิ่งที่เขาพูด จะเห็นว่าไม่มีท่าทีเจรจาเพื่อสันติภาพ ไม่มีท่าทีว่าอยากจะประนีประนอม ไม่มีการบอกว่า ‘มาหาทางออกจากความวุ่นวายนี้กันเถอะ’
นี่คือประธานาธิบดีที่ตั้งใจที่จะได้ชัยชนะมาให้ได้ เพราะเขาเชื่อจริง ๆ ว่าสามารถชนะได้ หรือไม่ก็เพราะปูตินรู้ว่าเขาก้าวล้ำเข้ามามากเกินไปกว่าที่จะถอยหลังได้แล้ว และทางเลือกเดียวคือสู้ต่อโดยหวังว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจนเป็นผลดีแก่เขา”
เจเรมี โบเวน : “ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ได้พูดถึงการเอาแผ่นดินที่พวกเขาเสียไปกลับคืนมา เขาหมายถึงไครเมีย เมืองขนาดใหญ่ที่เสียไปเมื่อปี 2014 ด้วย
ตอนนี้เซเลนสกีได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นผู้นำสงครามที่ยอดเยี่ยม แต่คำถามที่ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จทางการทหารได้แค่ไหนขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากนาโต และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสิ่งที่พวกเขาจะได้จากสหรัฐฯ อาวุธล้ำเทคโนโลยีที่พวกเขามีอย่างระบบขีปนาวุธฮิมาร์ช่วยสร้างความเสียหายต่อศัตรูได้มากมาย
ประธานาธิบดีไบเดนต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง คือไม่สามารถปล่อยให้ยูเครนแพ้ได้ ต้องสนับสนุนเพื่อที่จะได้รับชัยชนะ แต่ก็ไม่ดันให้รัสเซียจนมุมถึงขั้นที่คำขู่เรื่องอาวุธนิวเคลียร์อาจเป็นจริงขึ้นมาได้
ตอนนี้ ฝ่ายยูเครนตระหนักแล้วว่าหากจะยึดคืนเมืองกลับมาได้ พวกเขาต้องมีกำลังในการโจมตีมากกว่านี้มาก ครั้งที่แล้วที่ผมไปยูเครน รัสเซียกำลังถอนทัพออกจากเมืองแค์ซอน ผู้บังคับบัญชาทุกคนในภูมิภาคนั้นที่ผมคุยด้วยบอกว่า ในการที่พวกเขาจะชนะสงครามในรูปแบบที่อยากจะชนะ พวกเขาต้องการกำลังในการโจมตีมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถถังสมัยใหม่ เรื่องเครื่องบิน และนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุน”